logo
วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ย้อนอดีตศูนย์ข่าว ท.ล.ไปแอ่วลาว เบิ่งหนุ่มสาวสะหวันนะเขต
เมื่อปี ๒๕๕๐ ราวต้นเดือนมีนาคม ครูนัยนา จิตรรังสรรค์นำนักเรียนศูนย์ข่าวเยาวชนไทยโรงเรียนเทพลีลาไปทำสกู๊ปข่าวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว๒ และข้ามแม่น้ำโขงไปแอ่วลาวร่วมกับกัลยาณมิตรอีก ๒ โรงเรียน คือโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จ.อุบลราชธานีและโรงเรียนมุกดาหาร จ.มุกดาหาร ไปทำสกู๊ปข่าวที่โรงเรียนมัธยมสมบูรณ์โพนสวรรค์ แขวงสะหวันนะเขต พระธาตุอิงฮัง ตลาดสิงคโปร์ ม่วนซื่นและแซ่บหลายแต้ๆเด้อ....
วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
สารคดี "บ้านริมคลอง" (แสนแสบ-อัมพวา) ปี ๒๕๕๓
สารคดีชุดนี้ ทีมงานหลายคนต้องใช้ความทรหดอดทนมาก เพราะถ่ายทำนอกสถานที่หลายแห่ง โลเกชั่นดังกล่าวได้แก่ ริมคลองแสนแสบสองฝั่งตั้งแต่ย่านหัวหมากไปจรดย่านเมืองมีนบุรี ท้องทุ่ง(และควาย)แถวหนองจอก รวมทั้งคลองอัมพวา แม่กลอง สวนรีสอร์ต พิพิธภัณฑ์ขนมไทย เพื่อให้สารคดีเรื่องนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ไม่นับรวมกับการทุ่มเทแรงกายแรงใจของศิษย์ผู้พี่ อย่างพี่โย-อนุสรณ์ จิรทันตศิลป์และพี่เทพ-ศิวะเทพ แสงพรหม กับเบื้องหลังของตัวช่วยที่ทำให้งานนี้สำเร็จลง หากน้องๆศูนย์ข่าวรุ่นใหม่ได้เห็นถึงความอุตสาหะนี้ ขอให้เป็นแบบอย่างที่ดีในการผลิตสร้างสรรค์ผลงานชิ้นต่อไปให้ดียิ่งขึ้น
หนังสั้น "ใครคือคนผิด" ปี ๒๕๕๒
ศูนย์ข่าวเยาวชนไทยโรงเรียนเทพลีลา ได้สร้างสรรค์ผลงานหนังสั้นอีกหนึ่งเรื่อง หลังจากเข้ารับการอบรม ณ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) เพื่อรณรงค์เรื่องความเสมอภาคหญิง-ชาย โดยหนังสั้นเรื่องนี้ได้นำเสนอในงาน "มหกรรมสู่ความเสมอภาคหญิง-ชาย" ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๒ ซึ่งได้รับเสียงปรบมือกึกก้องและคำชมจากผู้ร่วมงานอย่างมาก
หนังสั้น "มองทำไม" ปี ๒๕๕๒
เมื่อศูนย์ข่าวเยาวชนไทยโรงเรียนเทพลีลาได้สร้างสรรค์ผลงานหนังสั้นที่บอกสาเหตุหนึ่งของความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงเรียน เพียงแค่มองหน้าเท่านั้น ปัญหาก็เกิดขึ้นแล้ว ลองชมทบทวนอีกครั้งว่าทุกวันนี้ยังเป็นเช่นนี้อยู่หรือไม่
"มองทำไม" หนังสั้นของศูนย์ข่าวฯเทพลีลาในสายตาองค์การแพลน
"มองหน้า"ที่มารุนแรงในร.ร.วอนผู้ใหญ่ช่วยแก้
"การเปิดโอกาสให้เยาวชนเป็นผู้นำเสนอความรุนแรงในโรงเรียนให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้ คือจุดประสงค์โครงการ Young Hearts Youth Arts and Media Festival-สื่อจากวัยใส... เพื่อโรงเรียนไร้ความรุนแรง ขององค์การ แพลน(Plan)
เพราะทุกวันนี้สื่อกระแสหลักเป็นของผู้ใหญ่ทั้งสิ้น การที่ผู้ใหญ่ได้เห็นน่าจะช่วยแก้ปัญหาความรุนแรงได้ตรงจุดมากขึ้น" วริศรา ศรเพชร เจ้าหน้าที่การสื่อสารองค์กรแพลนเอเชีย กล่าว
รูปแบบของความรุนแรงในโรงเรียนในประเทศไทยที่พบเห็น คือ การลงโทษโดยใช้ความรุนแรง การรังแกข่มเหงกันในหมู่เด็ก และความรุนแรงทางเพศ เช่น ภาคกลาง นักเรียนมองว่าความรุนแรงคือ ความกดดัน การแข่งขัน และความคาดหวัง ขณะที่ภาคเหนือ ความรุนแรงคือ การล้อเลียนชาติพันธุ์ ส่วนภาคอีสาน ความรุนแรงเกิดจากปัญหาครอบครัว เพราะพ่อแม่ต้องออกมาทำงานในกรุงเทพฯ ไม่มีเวลาเลี้ยงดูเด็ก
"กิ๊ฟ" กนกพร แดงวิจิตร นักเรียนชั้น ม.6 สายวิทย์-คณิต ตัวแทนศูนย์ข่าวเยาวชนไทย โรงเรียนเทพลีลา ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของมองหน้า ที่มาของความรุนแรงในโรงเรียน เรื่องราวเด็กหญิงนักเรียนใหม่มองหน้าชายหนุ่มในโรงเรียน โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นกะเทยด้วยความปลาบปลื้มในความเก่ง หล่อ ขณะที่เพื่อนๆ สาวของชายหนุ่ม (กะเทย) เข้าใจว่ามองหน้าเพราะต้องการหาเรื่อง จึงเป็นสาเหตุของความรุนแรงในโรงเรียน ทั้งๆ ที่นักเรียนใหม่ไม่ได้มีเจตนา ให้เกิดความรุนแรง ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้เป็นการนำเสนอให้สังคมรับรู้ว่า บางทีการมองหน้าด้วยความสนใจ และชื่นชม ก็เป็นสาเหตุของความรุนแรงในโรงเรียนได้เช่นกัน
"เป็นการบอกให้สังคมรับรู้ว่า บางทีความรุนแรงในสถานศึกษาก็มีสาเหตุมาจากเรื่องความเข้าใจที่ไม่ตรงกันด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งสมาชิกศูนย์ข่าวให้เวลาสำรวจความคิดเห็นนักเรียนในโรงเรียน 1 เดือนก่อนสรุปออกมาเป็นเรื่องนี้ และใช้เวลาถ่ายทำจนเสร็จประมาณ 3 เดือน" กิ๊ฟ กล่าว
จริงๆ แล้วยังมีหนังสั้นฝีมือของเด็กไทยอีก 19 เรื่อง ซึ่งจะมีการนำเสนอในนิทรรศการ สื่อจากวัยใส... เพื่อโรงเรียนไร้ความรุนแรง ที่สยามดิสคัฟเวอรี่และดิสคัฟเวอรี่พลาซ่า วันที่ 3-4 ตุลาคม ร่วมกับสื่อของเด็กและเยาวชน 6 ประเทศในแถบเอเชีย เป็นต้นว่า อินเดีย - ภาพยนตร์แอนิเมชั่น, การ์ตูน, สติกเกอร์, โปสการ์ด บังกลาเทศ - ละครเวที, สปอตโฆษณา, เรื่องสั้น, บทความ, โปสเตอร์
อินโดนีเซีย - วงดนตรี, เรื่องสั้น, บทกวี, โปสเตอร์, ภาพถ่าย ฟิลิปปินส์ - ภาพยนตร์สารคดีสั้น, สื่อประกาศสาธารณะ, ภาพถ่าย, โปสเตอร์ เวียดนาม - ภาพยนตร์สั้น, ซีดีเพลง, กล่องสีเทียนยุติความรุนแรง, หนังสือเกี่ยวกับวินัยเชิงบวก, โปสเตอร์ เนื้อหาทุกชิ้นงานมุ่งรณรงค์ยุติความรุนแรงในโรงเรียน เป็นปัญหาร่วมกันของเด็กและเยาวชนในภูมิภาคเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผลงานของเด็กไทยจะถูกนำไปเผยแพร่ในสื่อต่างๆ เพื่อให้รับรู้ในวงกว้างต่อไปอีกด้วย
วริศรา บอกว่า นอกจากนี้องค์การแพลนยังจะจัดอบรมให้แก่ครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับการสร้างวินัยทางบวกให้เหมาะสมต่อช่วงวัยและพัฒนาการของเด็ก แทนการลงโทษที่รุนแรง การบูรณาการหลักสูตรให้มีเนื้อหาที่ช่วยส่งเสริม หรือป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงต่อเด็กในโรงเรียน โดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับวัฒนธรรมในท้องถิ่น เพื่อแก้ปัญหาความรุนแรงในโรงเรียน หน่วยงาน หรือสถานศึกษา สนใจสื่อในโครงการหาดูได้ที่ www.plan-international.org
ที่มา คมชัดลึก 3 ต.ค. 2552
"การเปิดโอกาสให้เยาวชนเป็นผู้นำเสนอความรุนแรงในโรงเรียนให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้ คือจุดประสงค์โครงการ Young Hearts Youth Arts and Media Festival-สื่อจากวัยใส... เพื่อโรงเรียนไร้ความรุนแรง ขององค์การ แพลน(Plan)
เพราะทุกวันนี้สื่อกระแสหลักเป็นของผู้ใหญ่ทั้งสิ้น การที่ผู้ใหญ่ได้เห็นน่าจะช่วยแก้ปัญหาความรุนแรงได้ตรงจุดมากขึ้น" วริศรา ศรเพชร เจ้าหน้าที่การสื่อสารองค์กรแพลนเอเชีย กล่าว
รูปแบบของความรุนแรงในโรงเรียนในประเทศไทยที่พบเห็น คือ การลงโทษโดยใช้ความรุนแรง การรังแกข่มเหงกันในหมู่เด็ก และความรุนแรงทางเพศ เช่น ภาคกลาง นักเรียนมองว่าความรุนแรงคือ ความกดดัน การแข่งขัน และความคาดหวัง ขณะที่ภาคเหนือ ความรุนแรงคือ การล้อเลียนชาติพันธุ์ ส่วนภาคอีสาน ความรุนแรงเกิดจากปัญหาครอบครัว เพราะพ่อแม่ต้องออกมาทำงานในกรุงเทพฯ ไม่มีเวลาเลี้ยงดูเด็ก
"กิ๊ฟ" กนกพร แดงวิจิตร นักเรียนชั้น ม.6 สายวิทย์-คณิต ตัวแทนศูนย์ข่าวเยาวชนไทย โรงเรียนเทพลีลา ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของมองหน้า ที่มาของความรุนแรงในโรงเรียน เรื่องราวเด็กหญิงนักเรียนใหม่มองหน้าชายหนุ่มในโรงเรียน โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นกะเทยด้วยความปลาบปลื้มในความเก่ง หล่อ ขณะที่เพื่อนๆ สาวของชายหนุ่ม (กะเทย) เข้าใจว่ามองหน้าเพราะต้องการหาเรื่อง จึงเป็นสาเหตุของความรุนแรงในโรงเรียน ทั้งๆ ที่นักเรียนใหม่ไม่ได้มีเจตนา ให้เกิดความรุนแรง ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้เป็นการนำเสนอให้สังคมรับรู้ว่า บางทีการมองหน้าด้วยความสนใจ และชื่นชม ก็เป็นสาเหตุของความรุนแรงในโรงเรียนได้เช่นกัน
"เป็นการบอกให้สังคมรับรู้ว่า บางทีความรุนแรงในสถานศึกษาก็มีสาเหตุมาจากเรื่องความเข้าใจที่ไม่ตรงกันด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งสมาชิกศูนย์ข่าวให้เวลาสำรวจความคิดเห็นนักเรียนในโรงเรียน 1 เดือนก่อนสรุปออกมาเป็นเรื่องนี้ และใช้เวลาถ่ายทำจนเสร็จประมาณ 3 เดือน" กิ๊ฟ กล่าว
จริงๆ แล้วยังมีหนังสั้นฝีมือของเด็กไทยอีก 19 เรื่อง ซึ่งจะมีการนำเสนอในนิทรรศการ สื่อจากวัยใส... เพื่อโรงเรียนไร้ความรุนแรง ที่สยามดิสคัฟเวอรี่และดิสคัฟเวอรี่พลาซ่า วันที่ 3-4 ตุลาคม ร่วมกับสื่อของเด็กและเยาวชน 6 ประเทศในแถบเอเชีย เป็นต้นว่า อินเดีย - ภาพยนตร์แอนิเมชั่น, การ์ตูน, สติกเกอร์, โปสการ์ด บังกลาเทศ - ละครเวที, สปอตโฆษณา, เรื่องสั้น, บทความ, โปสเตอร์
อินโดนีเซีย - วงดนตรี, เรื่องสั้น, บทกวี, โปสเตอร์, ภาพถ่าย ฟิลิปปินส์ - ภาพยนตร์สารคดีสั้น, สื่อประกาศสาธารณะ, ภาพถ่าย, โปสเตอร์ เวียดนาม - ภาพยนตร์สั้น, ซีดีเพลง, กล่องสีเทียนยุติความรุนแรง, หนังสือเกี่ยวกับวินัยเชิงบวก, โปสเตอร์ เนื้อหาทุกชิ้นงานมุ่งรณรงค์ยุติความรุนแรงในโรงเรียน เป็นปัญหาร่วมกันของเด็กและเยาวชนในภูมิภาคเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผลงานของเด็กไทยจะถูกนำไปเผยแพร่ในสื่อต่างๆ เพื่อให้รับรู้ในวงกว้างต่อไปอีกด้วย
วริศรา บอกว่า นอกจากนี้องค์การแพลนยังจะจัดอบรมให้แก่ครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับการสร้างวินัยทางบวกให้เหมาะสมต่อช่วงวัยและพัฒนาการของเด็ก แทนการลงโทษที่รุนแรง การบูรณาการหลักสูตรให้มีเนื้อหาที่ช่วยส่งเสริม หรือป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงต่อเด็กในโรงเรียน โดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับวัฒนธรรมในท้องถิ่น เพื่อแก้ปัญหาความรุนแรงในโรงเรียน หน่วยงาน หรือสถานศึกษา สนใจสื่อในโครงการหาดูได้ที่ www.plan-international.org
ที่มา คมชัดลึก 3 ต.ค. 2552
วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554
ศูนย์ข่าวฯเทพลีลากับรายการ U-school เมื่อปี ๒๕๔๘
เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเมื่อรายการ U-school ออกอากาศทาง UBC ช่อง ๑๑ ส่งทีมงานมาสัมภาษณ์ครูนัยนา จิตรรังสรรค์และนักเรียนศูนย์ข่าวเยาวชนไทย ในช่วง UR-Teacher ในขณะนั้น ประธานศูนย์ข่าวเยาวชนไทยโรงเรียนเทพลีลา คือ นายศราวุฒิ เตชะนอก รองประธานมี ๓ คนคือ นายณรงค์ยศ รัตนอนันต์ นายศิวกร เกษรราชและนางสาวอรุณโรจน์ ประเสริฐแสง เบื้องหลังกล้องในวันนั้นน้ำตาท่วมจอ เรียกว่าไม่เว้นแม้ตากล้องและพิธีกร-น้องน้ำหวาน นำมาเล่าสู่กันฟังพร้อมสกู๊ป
วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2554
ศูนย์ข่าวเยาวชนไทยฯกับงานเทพนิทรรศ ' 53
ศูนย์ข่าวเยาวชนไทยโรงเรียนเทพลีลากับ
งานเทพนิทรรศ ' ๕๓
เก็บตกจากงานวิชาการเทพนิทรรศ ' ๕๓ ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๑ เดือนมกราคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา ก็เหมือนเดิมเช่นทุกปีที่ศูนย์ข่าวฯของเราเป็นทัพด่านหน้า เต็นท์แรก ทันทีที่มองเข้ามาในรั้วโรงเรียน....ปีนี้ครูที่ปรึกษาศูนย์ข่าวฯ คุณครูนัยนา จิตรรังสรรค์ผนึกกำลังจับมือกับศิษย์เก่ารุ่นพี่รังสรรค์แผ่นไวนิลขนาดบิ๊กบึ้ม โชว์ผลงานสำคัญที่ผ่านมาในรอบ ๗ ปีของศูนย์ข่าวฯ สะกดสายตาของผู้ชมทุกคนด้วยรางวัลใหญ่ระดับโลก เอ็มมีอะวอร์ดและรางวัลระฆังทองระดับประเทศ ผู้ที่ผ่านไปมาก็เพิ่งถึงบางอ้อ..อ้อ! มีดีอย่างนี้นี่เอง ก็ขอให้ขยันทำข่าวอย่างเข้มแข็งจะได้มีดีต่อไป....ภายในเต็นท์จัดแนวสตูดิโอและพลิกแพลงเป็นลานสกา..เอ๊ย!!ลา่นมหาสนุกแข่งขันกิจกรรมการละเล่นหลากหลายอาทิ บิงโก ตอบปัญหาฯลฯ ด้านข้างโซนในจัดวางคอมพิวเตอร์ ๕ ชุดพร้อมหูฟัง แสดงผลงานสกู๊ปข่าวเด่นดังในรอบปีที่ผ่านมารวมทั้งหนังสั้นเรื่อง "มองทำไม"และ"ใครคือคนผิด"และหนังสารคดีชุด"บ้านริมคลอง" ที่เบื้องหลังยกกองถ่ายทำไปถึงตลาดน้ำอัมพวานั่นเชียวงานนี้เรียกว่าได้แจ้งเกิดกันถ้วนหน้า บรรดาขาโจ๋ก็มากลุ้มรุมทึ้้งและร่วมทำกิจกรรมอย่างสนุกสนาน นักเรียนศูนย์ข่าวฯก็แบ่งงานและแบ่งภาคมาหมุนเวียนเปลี่ยนหน้า ขาเก่าเจ้าประจำอาทิ ดา-พนิดา เตย-ฐิติรัตน์ นัท-ชลธิส ลิ้งค์-เกียรติศักดิ์ จอย-วันวิสา ภัทร-ภัทรสุดา เค้ก-กมลชนก บู-บู เพ็ญ-วันเพ็ญ เหนก-เอนก และบรรดาขาจรอีกคับคั่ง เรียกว่าทำงานจนลืมเหนื่อย และนี่เลย..พี่โย -อนุสรณ์เจ้าสำนักของเรามาว่าการตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่..รวมทั้งพี่วัติ-ปฏิวัติ พี่อัย-จีราภรณ์ พี่กิ๊ฟ-กนกพร ถ้าขาดหล่นชื่อใครขออภัยกันถ้วนหน้า..ประธานของงานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ท่านวิรัช บุญนำยังให้เกียรติชาวศูนย์ข่าวฯไ้ด้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเอง....พองานสำเร็จเสร็จสิ้น ครูนัยนาเทกระเป๋าเลี้ยงสำรับเย็น..อิ่มท้องกันถ้วนหน้า..โปรดดูจากภาพแล้วจะรู้ว่า เรื่องจริงไม่อิงนิยาย...ขอบอก
(เมนูอาหาร-ขนมจีนแกงไก่-ไข่ต้ม-ส้มตำ-ยำสารพัด-ข้าวเหนียว-ผลไม้และปิดท้ายด้วยขนมไทย ๙ ชนิด สีสันสวยงาม..เกลี้ยงทุกอย่างจ้า)
วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2554
ศูนย์ข่าวเยาวชนไทยร.ร.เทพลีลากับรางวัลเอ็มมี่อะวอร์ดและรางวัลระฆังทอง
ย้อนอดีตรางวัลใหญ่ระดับโลก-ระดับประเทศ
คงไม่ลืมกันว่าศูนย์ข่าวเยาวชนไทยโรงเรียนเทพลีลาเคยได้รับรางวัลใหญ่ระดับโลกและระดับประเทศมาแล้วถึง ๒ รางวัลใหญ่(จริงๆ)ได้แก่
๑. รางวัล International Emmy Award 2007
ในการประกาศรางวัลพิเศษที่รางวัลเอ็มมี่อะวอร์ด
ร่วมกับ องค์การยูนิเซฟ คัดเลือกจากการผลิตสื่อรณรงค์เรื่องต่อต้านโรคเอดส์จากกว่า ๒๐๐ ประเทศ
ทั่วโลก โดยศูนย์ข่าวเยาวชนไทย เป็นผู้ชนะเลิศอันดับ ๑ ของทวีปเอเชีย และเดินทางไปชิงรางวัลกับผู้ชนะเลิศจากทวีปอื่นๆอีก ๕ ทวีป ณ กรุงนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ผลปรากฎว่า ผลงานสื่อของศูนย์ข่าวเยาวชนไทยได้รับรางวัลชนะเลิศที่ ๑ ของโลกอีกด้วย โดยผลงานสื่อที่ชนะเลิศร่วมผลิตและสร้างสรรค์โดยศูนย์ข่าวเยาวชนไทยโรงเรียนเทพลีลาและศูนย์ข่าวโรงเรียนในเครือรวม ๕ โรงเรียนจำนวน ๕ เรื่อง(หนังสั้นรณรงค์โรคเอดส์) ในวันรับรางวัล ราวเดือนพฤศจิกายน ปี ๒๕๕๐ คุณรัชพล(พี่วีระ) สุวรรณโชติ นายกสมาคมศูนย์ข่าวเยาวชนไทยพร้อมตัวแทนนักเรียนศูนย์ข่าวได้เดินทางไปรับอย่างเต็มภาคภูมิ...ไชโย้(เราเก่งจริงๆนะ)
รางวัลระดับประเทศล่ะ...นี่ไง..ใช่เลย
๒. รางวัลระฆังทอง จากสมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
(สว.นท.) โดยรางวัลนี้มอบให้แก่ ครูนัยนา จิตรรังสรรค์ และศูนย์ข่าวเยาวชนไทยโรงเรียนเทพลีลา
ในโล่รางวัลจารึกว่า รางวัล"ระฆังทอง"(บุคคลแห่งปี) ๒๕๕๒ สาขาสื่อสารมวลชน ส่งเสริมเยาวชนด้านวิทยุโทรทัศน์ ให้ไว้เมื่อ วันจันทร์ที่ ๙ พฤศจิกายน
๒๕๕๒...
โอ้โห!!!!..แล้วอย่างนี้มีใครบ้างจะไม่ดีใจ เอ้า ไชโยให้นักเรียนศูนย์ข่าวและโรงเรียนเทพลีลาของเราดังๆ...ไชโย้..ไชโย้..ไชโย้
คงไม่ลืมกันว่าศูนย์ข่าวเยาวชนไทยโรงเรียนเทพลีลาเคยได้รับรางวัลใหญ่ระดับโลกและระดับประเทศมาแล้วถึง ๒ รางวัลใหญ่(จริงๆ)ได้แก่
๑. รางวัล International Emmy Award 2007
ในการประกาศรางวัลพิเศษที่รางวัลเอ็มมี่อะวอร์ด
ร่วมกับ องค์การยูนิเซฟ คัดเลือกจากการผลิตสื่อรณรงค์เรื่องต่อต้านโรคเอดส์จากกว่า ๒๐๐ ประเทศ
ทั่วโลก โดยศูนย์ข่าวเยาวชนไทย เป็นผู้ชนะเลิศอันดับ ๑ ของทวีปเอเชีย และเดินทางไปชิงรางวัลกับผู้ชนะเลิศจากทวีปอื่นๆอีก ๕ ทวีป ณ กรุงนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ผลปรากฎว่า ผลงานสื่อของศูนย์ข่าวเยาวชนไทยได้รับรางวัลชนะเลิศที่ ๑ ของโลกอีกด้วย โดยผลงานสื่อที่ชนะเลิศร่วมผลิตและสร้างสรรค์โดยศูนย์ข่าวเยาวชนไทยโรงเรียนเทพลีลาและศูนย์ข่าวโรงเรียนในเครือรวม ๕ โรงเรียนจำนวน ๕ เรื่อง(หนังสั้นรณรงค์โรคเอดส์) ในวันรับรางวัล ราวเดือนพฤศจิกายน ปี ๒๕๕๐ คุณรัชพล(พี่วีระ) สุวรรณโชติ นายกสมาคมศูนย์ข่าวเยาวชนไทยพร้อมตัวแทนนักเรียนศูนย์ข่าวได้เดินทางไปรับอย่างเต็มภาคภูมิ...ไชโย้(เราเก่งจริงๆนะ)
๒. รางวัลระฆังทอง จากสมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
(สว.นท.) โดยรางวัลนี้มอบให้แก่ ครูนัยนา จิตรรังสรรค์ และศูนย์ข่าวเยาวชนไทยโรงเรียนเทพลีลา
ในโล่รางวัลจารึกว่า รางวัล"ระฆังทอง"(บุคคลแห่งปี) ๒๕๕๒ สาขาสื่อสารมวลชน ส่งเสริมเยาวชนด้านวิทยุโทรทัศน์ ให้ไว้เมื่อ วันจันทร์ที่ ๙ พฤศจิกายน
๒๕๕๒...
โอ้โห!!!!..แล้วอย่างนี้มีใครบ้างจะไม่ดีใจ เอ้า ไชโยให้นักเรียนศูนย์ข่าวและโรงเรียนเทพลีลาของเราดังๆ...ไชโย้..ไชโย้..ไชโย้
ฯพณฯ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมอบรางวัลระฆังทอง สาขาสื่อสารมวลชนส่งเสริมเยาวชนด้านวิทยุโทรทัศน์ประจำปี ๒๕๕๒ ให้แก่ นางนัยนา จิตรรังสรรค์ และศูนย์ข่าวเยาวชนไทยโรงเรียนเทพลีลา |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)